การเลือกใช้ช่องทาง (channel) การส่งข้อมูลบนระบบ wireless เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักส่งผลต่อประสิทธิภาพของสัญญาณนะครับ โดยเป้าหมายของการปรับ channel ในครั้งนี้ก็คือการเลือกใช้ channel ที่ไม่ไม่ตรงกันกับอุปกรณ์ในระบบ wireless ของผู้อื่นที่อยู่รอบๆตัวคุณนั่นเองครับ (แต่ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ประเภท 802.11a หรือ 802.11a/g แล้ว, การเลือก channel นี้ไม่สำคัญครับ)
ถ้าระบบ wireless ของคุณอยู่ภายในบ้านและเพื่อนบ้านของคุณไม่ได้ใช้ระบบ wireless แล้วหละก็ ถือว่าโชคดีไม่น้อยเลยครับ คุณเพียงเลือก channel ที่ทำงานได้ดีที่สุดสำหรับคุณ แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ความยุ่งยากจะมาเยือนคุณทันทีครับ
ความห่างของแต่ละ channel
สำหรับคนที่ใช้ wireless 802.11b และ 11g นะครับ จะมี channel ให้ใช้ได้ 11 ช่อง (13 channel สำหรับยุโรป) เมื่อใดก็ตามที่มีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้น เราสามารถเลือก channel ไหนก็ได้ครับที่ดีสำหรับระบบของเรา แต่เมื่อไรก็ตามที่มีการรบกวนของสัญญาณ wireless ตัวอื่นๆ ในพื้นที่ที่สัญญาณมันคาบเกี่ยวกัน หรือทับซ้อนกันอยู่ ?(overlap) อุปกรณ์ wireless แต่ละตัวก็จำเป็นที่จะต้องมี channel ที่แตกต่างกันออกไป (Overlapping channels) เช่น channel: 1, 6 หรือ 11 (1, 7, 13 ในยุโรป) เพื่อให้สัญญาณรบกวนซึ่งกันและกันน้อยลง ดังนั้น 3 เครือข่าย wireless ที่อยู่ในโซนเดียวกัน จะสามารถทำงานได้โดยมีการรบกวนกันของสัญญาณที่น้อยที่สุด
อะไรจะเกิดขึ้นหาก channel ที่ต้องการใช้มีสัญญาณรบกวนเต็มไปหมด?
ถ้าเพื่อนบ้านของคุณก็มีระบบ wireless เหมือนกัน คุณไม่ต้องสงสัยเลยครับว่าทำไมบ้านหลังแรกใช้ channel 1 และอีกบ้านใช้ channel 11 และอาจจะเป็นโชคร้ายสำหรับคุณก็ได้ครับ ที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยง channel ที่มีแต่สัญญาณรบกวน เนื่องจากระบบ wireless 802.11b และ 11g นั้นมีให้คุณเลือกแค่ 3 overlapping channel ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่มีมากกว่า 4 channel ที่ใช้งานในบริเวณเดียวกัน ความแรงของสัญญาณรบกวนจะเพิ่มสูงขึ้นทันที ผลเป็นไงหละครับ ปัญหาเรื่องสัญญาณขาดๆ หายๆ มาเยือนคุณทันทีครับ
แล้วจะทำยังไงหละ?
หากคุณเจอปัญหาแบบนี้แล้วหละก็ วิธีการที่เหมาะที่สุดก็คือ ลองคุยเพื่อนบ้านหลังที่เวลาคุณสแกนแล้วเจอสัญญาณ wireless ของเค้านั่นแหละครับ(ไม่ใช่เอาระเบิดไปวางบ้านเค้านะครับ )?โดยที่คุณอาจจะใช้ channel 1 และ 8 ในขณะที่เพื่อนบ้านคุณใช้ channel 5 และ 11 แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่า channel ที่คุณจะเลือกใช้ ต้องมีระยะห่างระหว่าง channel กับ chanel อย่างน้อยที่สุด 5 channel ครับ (นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมบ้านคุณใช้ channel 1 และ 8 ในขณะที่เพื่อนบ้านคุณใช้ 5 และ 11 ไงหละครับ)
หรือไม่ คุณอาจจะเปลี่ยนตำแหน่ง wireless router หรือ access point ของคุณโดยย้ายมันเข้าไปอยู่ในบ้านของคุณครับ อย่างน้อยๆ พวกกำแพง, ประตู, หน้าต่าง จะเป็นตัวลดทอนระยะการส่งสัญญาณ wireless ของคุณ ซึ่งผมเชื่อว่าเพื่อนบ้านของคุณก็คงไม่ต้องการเห็นสัญญาณ wireless ของคุณแน่นอน ยกเว้นระบบ wireless?ไม่มีการถามรหัสและยอมให้เพื่อนบ้านใช้ได้ฟรีๆ จริงไหมครับ
หรือไม่อีกทาง ลองเปลี่ยนมาใช้เสาอากาศแบบ directional ดูซิครับและกำหนดทิศทางของสัญญาณให้ชัดเจน ไม่ให้สัญญาณเดินทางแบบไม่มีทิศทาง นั่นก็อาจจะพอช่วยได้อีกทางครับ (อ่านบทความเกี่ยวกับเสาอากาศได้ที่ สัญญาณ wireless และเสาส่งสัญญาณ นะครับ)
ลดการส่งข้อมูลบนระบบ wireless
อาจจะงงใช่ไหมหละครับ ว่ามันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบ wireless ของคุณได้ยังไง ลองดูต่อไปครับ
เมื่อใดก็ตามที่เปิดฟังก์ชั่นการส่งชื่อของตัวอุปกรณ์ wireless ออกไปในระบบ (หรือที่เรียกว่า SSID Broadcasting นั่นเองครับ) แน่นอนครับ มันง่ายต่อเครื่องลูกข่ายเวลาค้นหาตัวอุปกรณ์ wireless แต่ถ้ามองอีกมุมนึงก็คือ ระบบ wireless ของคุณมีการกระจายชื่อนี้ออกไปอยู่ตลอดเวลา และหากสมมุติว่าเพื่อนบ้านคุณสแกนเจอแล้วพยายามเชื่อมต่อเข้ามาอยู่ตลอดเวลาหละครับ แน่นอนครับ สิ่งนี้ส่งผลต่อการบั่นทอนความแรงของสัญญาณอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย ดังนั้น หากมีระบบ wireless หลายๆ ตัวอยู่บริเวณเดียวกัน ผมแนะนำให้ปิดการ broadcast SSID ดีกว่าครับ อ้อ… แล้วอย่าลืมเปลี่ยนชื่อมันด้วยนะครับ
การปิดการเข้ารหัส WEP และ WPA อาจจะเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลด้วยนะครับ แต่ก็เป็นการเสี่ยงต่อการโดน hacker เข้ามาทำอะไรมิดีมิร้ายกับระบบ ดังนั้นผมไม่แนะนำครับ ยกเว้นว่า คุณอยากจะทดสอบก็ไม่ว่ากันครับ แต่อย่าลืมเปิดการเข้ารหัสหลังการทดสอบเสร็จแล้วหละครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้นะ!